cloud pyramid floor

สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

Arab Republic of Egypt

ฟาโรห์ เทพเจ้า ปิระมิด สฟิงซ์ เครื่องประดับ
และเรื่องราวผ่านวันเวลา ปริศนาความมหัศจรรย์มากมายจากอดีต
สืบทอดมาจนปัจจุบัน

pharaoh

ยังคงเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่เฝ้ารอการค้นหา
มนตรา มนต์เสน่ห์แห่งไอยคุปต์

การสัมมนารับเชิญนักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชร 2566

สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

ship ship cloud
river

ข้อมูลทั่วไป

General Information

สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ หรือเรียกโดยทั่วไปว่า อียิปต์ (Egypt)


อียิปต์ เป็นประเทศที่มีแผ่นดินเชื่อมต่อระหว่างทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย หลังจากได้มีการขุดและเปิดใช้คลองสุเอซ เมื่อปี พ.ศ. 2412 (ค.ศ. 1869) เส้นทางผ่านคลองสุเอซของอียิปต์ได้กลายเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก


ประเทศอียิปต์ มีพื้นที่ประมาณ 1, 020, 000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมถึงคาบสมุทรซีนาย (ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันตกเฉียงใต้) ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตั้งอยู่ในแอฟริกาเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นส่วนของทะเลทรายซาฮารา ประเทศอียิปต์มีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณที่อลังการที่สุดในโลก ได้แก่ พีระมิด มหาวิหารคาร์นัคและหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ในปัจจุบัน อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ

ที่ตั้ง


อียิปต์ ตั้งอยู่บนสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาและในคาบสมุทรซีนาย

  • ทิศเหนือ:ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและประเทศอิสราเอล
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ:ติดกับติดทะเลแดงและประเทศอิสราเอล
  • ทิศตะวันออก:ติดกับทะเลแดง
  • ทิศใต้ :ติดกับประเทศซูดาน
  • ทิศตะวันตก:ติดกับประเทศลิเบีย

เมืองหลวง "ไคโร" (อัลกอฮิเราะห์)

Cairo


ไคโร (Cairo) เป็นเมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ตั้งริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ไคโรมีประชากรประมาณ 17 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ชื่อเมือง "ไคโร" ในภาษาอาหรับมีความหมายว่า ชัยชนะ

โดยความเชื่อว่าเกิดจากที่มีการมองเห็นดาวอังคาร ในช่วงที่ก่อสร้างเมืองและดาวอังคารเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง อย่างไรก็ตามในความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง ชื่อ ไคโร มาจากเมืองที่รบชนะทุกกองทัพที่มาตีเมืองไคโร รวมไปถึงกองทัพมองโกล กองทัพครูเสด หรือแม้แต่กองทัพออตโตมัน


สภาพภูมิอากาศ ฤดูกาล เวลาของอียิปต์


ภูมิอากาศ ประเทศอียิปต์มีภูมิอากาศ ร้อน แห้งและอากาศหนาว ระดับปานกลาง แบ่งเป็น 4 ฤดู ดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิ 15-32 องศาเซลเซียส
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิ 21-43 องศาเซลเซียส
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 19-34 องศาเซลเซียส
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิ 8-20 องศาเซลเซียส
เดือนตุลาคม-เมษายน เวลาในประเทศอียิปต์ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง (+3 เวลากรีนิช)
เดือนพฤษภาคม-กันยายน เวลาในประเทศอียิปต์ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง (+ 2 เวลากรีนิช)

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Interesting Attractions

เมืองอเล็กซานเดรีย

Alexandria


ให้ชื่อตามที่ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช มาสร้างไว้ตั้งแต่ยึดครองอียิปต์และได้ตั้งราชวงศ์ปโตเลมี ปกครองอียิปต์ต่อเนื่องมาจนสิ้นสุดที่พระนางคลีโอพัตรา เมืองนี้เคยปกครองโดยชาวเมืองอียิปต์ดั้งเดิม แล้วก็ตกเป็นของกรีก โรมัน

จนมาถึงการเข้ามาของศาสนาอิสลาม จึงเห็นมีศิลปะของกรีก โรมัน ตุรกี ปะปนกันอยู่ เมืองอเล็กซานเดรีย ได้รับการขนานนามว่า ไข่มุกแห่งเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 เป็นรองกรุงไคโรอันเป็นเมืองหลวงอยู่ห่างกรุงไคโร 225 กม. หรือประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เมืองนี้ประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นสมบัติอันล้ำค่านานนับพันปี ยังทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นอย่างน่าทึ่งและที่ค้นพบใหม่อีกมากมาย ที่จมอยู่ใต้น้ำบริเวณอ่าวแห่งเมืองอเล็กซานเดรีย ปัจจุบันมีถนนหลัก(กว้าง)เรียบชายฝั่งทะเลยาวเหยียด มีอ่าวเว้าสวยงาม เป็นทัศนียภาพอันสวยงาม

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองอเล็กซานเดรีย

มีหลายแห่ง อาทิ

สวนพระราชวังมอนตาซาห์

Montaza Palace and Gardens /El Salamlek


เป็น complex นี้มีพื้นที่ 115 เอเคอร์ (465388 ตรม.) รายรอบด้วยกำแพง 3 ด้าน ด้านทิศเหนือติดทะเล พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ฟารุก กษัตริย์องค์สุดทายของอียิปต์ ปัจจุบันใช้เป็นที่รับรองแขกพิเศษของประเทศ

เสาปอมเปย์

Pompey's Pillar


สิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 9 เมตร ทำด้วยหินแกรนิตสีแดงจากเมืองอาสวาน (ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ขนย้ายหินมาไกลกว่า 1, 000 กม.)

ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียตซีซ่าร์ ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกันและปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ก่อนถูกฆ่าตายและเล่าขานกันว่า จูเลียตซีซ่าร์ ได้ทำพิธีเผาศีรษะของปอมเปย์ที่เสานี้

นอกจากนั้นสถานที่นี้ในอดีตยังเคยมี อาโครโปลิส (ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาสูง) ซึ่งมีชื่อว่าเซราเปียมสร้างขึ้นเพื่อถวาย เทพเซราปิส ในสมัยของปโตเลมี แต่ในที่สุดถูกทำลายโดยพวกคริสเตียน ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาแบบกรีก ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นและสฟิงซ์อีกสองตัว

ประภาคารฟาโรส

Lighthouse of Alexandria /Qaitbay’s citadel


ได้ชื่อมาจากชื่อเกาะที่มันตั้งอยู่คือ เกาะฟาโรส เมื่อปี ค.ศ. 1375 แผ่นดินไหวในเมืองอเล็กซานเดรีย ทำให้ประภาคารดังกล่าวทลายลงมาจนสิ้นซาก ปัจจุบันสร้างเสริมเติมใหม่บนซากฐานที่ยังหลงเหลือไว้ ซึ่งใช้ชื่อใหม่ว่า Qaitbay’s citadel

ในอดีตประภาคารฟาโรสเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นราว 280 ปีก่อนคริสตกาล ในรัชสมัยของปโตเลมีที่2 มีความสูงกว่า 135 เมตร ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งราชนาวี (Qaitbay Maritime Museum)

ตามหลักฐานคาดว่าเดิมประภาคารแห่งนี้มีช่วงล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ช่วงกลางเป็นรูปแปดเหลี่ยมและช่วงบนเป็นทรงกลม ยอดบนสุดของประภาคารนี้ มีภาชนะสำหรับใส่ถ่านซึ่งลุกโชติช่วงทั้งวันทั้งคืนเพื่อเป็นไฟสัญญาณ

ไฟบนยอดประภาคารนี้เห็นได้ไกลในทะเลเมดิเตอเรเนียนถึง 40 กิโลเมตรและช่วงบนมีกระจกขนาดใหญ่ เรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมานี้ทำให้ประภาคารแห่งเมืองอเล็กซานเดรียมีชื่อเสียงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แม้ว่าไม่ใช่ประภาคารแห่งแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแต่ก็เป็นอันที่ใหญ่ที่สุด

สุสานใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย

Catacombs


มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ (Catacombs) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นสุสานฝังศพใต้ดินของกษัตริย์อียิปต์โบราณ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง เป็นสุสานของใครและสร้างเมื่อใด

ลักษณะของสุสานไม่เหมือนกับปีรามิดคือจัดสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินขุดลึกเข้าไปในภูเขาหินทราย ทำเป็นชั้นๆและมีช่องทางเดินกว้างประมาณ 3-4 ฟุต วกเวียนไปมาเป็นระยะทางหลายไมล์

ภายในอุโมงค์บางตอนตกแต่งอย่างสวยงามที่บรรจุพระศพคือผนังอุโมงค์ที่เจาะเป็นช่องลึกเข้าไป มีแท่นบูชา วางด้วยตะเกียงดวงเล็กๆแขวนไหว้ด้านหน้า ปัจจุบันสุสานแห่งอเล็กซานเดรียได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง

Catacombs

หอสมุดอเล็กซานเดรีย

Library of Alexandria


Library of Alexandria

เปิดบริการอย่างเป็นการในวันที่ 17 ตุลาคม 2002 นับว่าห้องสมุดอเล็กซานเดรียใหม่นี้ บ่งชี้อย่างชัดเจนถึงอารยธรรมและวัฒนธรรมและความสำเร็จในด้านวิศวกรรม ห้องสมุดอเล็กซานเดรียใหม่ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับมหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรียในเขตชาติบีย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในที่เดิม คือห้องบริเวณห้องสมุดอเล็กซานเดรีย์เก่า ในเขตมาลากีย์ ใกล้กับวังมาลากีย์


เมื่อดูจากภายนอกจะเห็นห้องสมุดคล้ายกับดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นมาจากทะเลซึ่งยังไม่เต็มดวง ส่วนสูงโดยรวม 160 เมตร โดยประมาณ บริเวณห้องสมุดนั้นถูกล้อมด้วยกำแพง ซึ่งดูคล้ายกับรูปดวงจัทร์เสี้ยว (กำแพงสร้างมาจากหินแกรนิต ซึ่งเป็นหินที่นำมาจากเมืองอัสวาน ประเทศอียิปต์) บนฝากำแพงนั้นถูกแกะสลักเป็นอักษรต่างๆ ถึง 120 ภาษา ที่แตกต่างกันไป

Library of Alexandria

เจ้าหญิงแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

สัญลักษณ์ของห้องสมุดประกอบด้วยสามสัญลักษณ์ คือ รูปคล้ายดวงอาทิตย์ครึ่งดวง, สระน้ำคล้ายทะเลหน้ารูปดวงอาทิตย์และประภาคาร รูปดวงอาทิตย์ครึ่งดวงนั้นได้บ่งชี้ถึงกระแสความคิดในการค้นคว้า การวิจัย การฟื้นฟู ที่มีอย่างสม่ำเสมอและเมื่อถูกสร้างในสภาพที่รูปดวงอาทิตย์ได้กำลังโผล่ขึ้นจากน้ำทะเล เป็นสาเหตุแห่งการมีชีวิตและแสงสว่างบนหน้าแผ่นดินอียิปต์ ซึ่งดวงอาทิตย์ครึ่งดวงเสมือนกับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของอารยธรรมอียิปต์ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน

ส่วนประภาคารที่สูงเหนือน้ำทะเลนั้น บ่งชี้ถึงเมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเมืองนี้ได้ถูกขนามนามว่า "เจ้าหญิงแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน"

Giza

มหาปิระมิดกีซ่า

Giza Plateau

1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

  • สถานที่ตั้งเมืองกีเซ่ห์
  • ผู้ที่สร้าง กษัตริย์คีออปส์ (CHEOPS) หรือคูฟู (Khufu), กษัตริย์คาเฟร (Khafre)และกษัตริย์คูเร (Menkaure)
  • ปีที่สร้าง ประมาณ 4, 500 ปี
Khufu

กษัตริย์คีออปส์ หรือคูฟู

CHEOPS / Khufu


ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 25, 800 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4, 500 ปี

ถือเป็นปิระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่กลางทะเลทราย ปิระมิดแห่งนี้เดิมสูง 481.4 ฟุต แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 450 ฟุต ฐานกว้าง 768 ฟุต

ใช้หินทรายตัดเป็นแท่งรูปสามเหลี่ยมหนักประมาณก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16 ตัน โดยการนำเอามาซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวย เชื่อกันว่าปิระมิดองค์นี้ จะทนแดดทนฝนอยู่ได้อีกนานกว่า 5, 000 ปีและเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณสิ่งเดียวเท่านั้น ที่มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน

ปิระมิดแห่งกีซ่า

Pyramid of Giza

ประกอบด้วย

Pyramid of Khufu

ปิระมิดคูฟู หรือมหาพีระมิดแห่งกิซ่า

The Great Pyramid of Giza

ซึ่งเป็นหนึ่งเดียว ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในหมู่ปิระมิดแห่งกิซ่า

Pyramid of Khafre

ปิระมิดคาเฟร

Khafre

ตั้งอยู่ตรงกลางของปิระมิดทั้ง 3 และสร้างอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีบางคนเข้าใจผิดว่า ปิระมิดคาเฟรคือ มหาปิระมิดแห่งกิซ่า

ทางทิศตะวันออกของปิระมิดคาเฟรมี มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) หินแกะสลักขนาดมหึมาที่มักปรากฏในภาพถ่ายคู่กับ ปิระมิดคาเฟร

Pyramid of Menkaure

ปิระมิดเมนคูเร

Menkaure

มีขนาดเล็กที่สุด และเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่ปิระมิดแห่งกิซ่า

จากตำแหน่งการก่อสร้างทำให้คาดได้ว่า เดิมอาจตั้งใจสร้างให้มีขนาดใกล้เคียง ปิระมิดคูฟูและปิระมิดคาเฟร แต่ในที่สุดก็สร้างในขนาดที่เล็กกว่า ปิระมิดเมนคูเร มักปรากฏในภาพถ่ายพร้อมกับหมู่ปิระมิดราชินีทั้ง 3 (The Three Queen's Pyramids)

The Great Sphinx of Giza

สฟิงซ์ยักษ์แห่งกีซ่า

The Great Sphinx of Giza


สฟิงซ์ยักษ์กีซ่า ถือเป็นสฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แกะสลักจากหินก้อนขนาดมหึมาเพียงก้อนเดียว โดยมีความยาวของลำตัวที่ 73.5 เมตร สูง 21 เมตรใบหน้ามีความยาว 5 เมตร จมูกยาว 2 เมตร ส่วนเคราไม่สามารถระบุตัวเลข ของขนาดได้

ปัจจุบันนี้เคราและจมูกของสฟิงซ์ยักษ์ตัวนี้ ถูกแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ BRITISH MUSEUM กรุงลอนดอน

ส่วนลำตัวของสฟิงซ์ มีรอยผุกร่อนอย่างชัดเจน ทั้งจากสภาพภูมิอากาศอันเลวร้ายในทะเลทรายและพายุทรายพัดกระหน่ำทับถมอยู่เป็นประจำและเนื่องจากถูกแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลากในอดีต ท่วมมาถึงครึ่งตัวกัดกร่อนให้บริเวณฐานเสียหายและเหลือร่องรอยการแช่น้ำ ทำให้ปัจจุบันนี้สฟิงซ์ยักษ์อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก แต่ก็สามารถมองภาพความยิ่งใหญ่ในอดีตได้จากสิ่งที่ยังเหลืออยู่

สฟิงซ์ เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูแผ่แม่เบี้ยและมีเครื่องประดับรัดเกล้าแบบกษัตริย์

รูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) บริเวณใกล้กับปิระมิดคาเฟร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่ปิระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex)

หน้าที่ของสฟิงซ์ส ฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ที่มีชาญฉลาดและมีพลังเพื่อปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติภายในปิระมิด

The Great Sphinx of Giza

เมืองเมมฟิสและเมืองซัคคาร่า

Memphis / Saqqara


Memphis
Memphis

เมืองเมมฟิส เมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5, 000 ปี เมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บนและอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียว


โดย กษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ชมรูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นต้นอินทผาลัมเป็นทิวแถวตลอดสองข้างทาง


จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองโบราณที่ใกล้กันคือ

เมืองซัคคาร่า เพื่อชมพีระมิดขั้นบันไดสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ซอเซอร์และเป็นต้นแบบของปิระมิดในยุคต่อมา

Saqqara
Saqqara

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์

Egyptian MUSEUM


ออกแบบโดยโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชื่อมาร์เซล โดน่อน เป็นสถานที่เก็บสะสมโบราณวัตถุที่เก่าแก่และล้ำค่ามากมาย ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์ จนกระทั่งยุคจักรวรรดิโรมันมากมายกว่า 120, 000 ชิ้น เก็บรวบรวมและจัดแสดงเล่าเรื่องราวความเป็นมาของอารยธรรมอียิปต์โบราณอันรุ่งเรือง

Saqqara

โดยเฉพาะห้องจัดแสดงสมบัติอันล้ำค่าของ องค์ฟาโรห์ตุตันคาเมน รวบรวมเครื่องใช้ต่างๆ ของฟาโรห์อย่างครบครัน

ชมโลงศพทองคำแท้หนัก 110 ก.ก. พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมนหนัก 11 ก.ก.และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ เช่น เตียงบรรทม, รถศึกและเก้าอี้บัลลังก์ทองคำ

นอกจากนี้ท่านยังได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ เช่น แหวน, สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ ฝีมือประณีต ล้วนมีอายุกว่า 3, 300 ปี

Nefertiti

พระเศียรของพระนางเนเฟอร์ติติ

Nefertiti

พระเศียรของพระนางเนเฟอร์ติติ 1 ใน 2 ชิ้นที่มีชื่อของโลก (อีกชิ้นอยู่ที่เบอร์ลิน)

Akhenaten

พระรูปของฟาโรห์อเคนาเตน

Akhenaten

ชมพระรูปของฟาโรห์อัคนาแตน ฟาโรห์นักปฏิวัติ

Daily Life in Ancient Egypt

รูปปั้นดินชีวิตประจำวันของชาวอียิปต์

Daily Life in Ancient Egypt

ชมรูปปั้นดินที่แสดงถึงชีวิตประจำวันของชาวอียิปต์

สัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์การเตรียมตัวหลังความตายของชาวอียิปต์ หรือ การทำมัมมี่ (Mummy) ชมมัมมี่ของคนและสัตว์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมร่วมค้นหาคำตอบแห่ง ปริศนาคัมภีร์มรณะ (Book of the Death) เปรียบเสมือนของกำนัลจากเทพแห่งความตาย

พระนางฮัตเชปสุต

Hatshepsut

พระรูปของพระนางฮัตเชปสุต ฟาโรห์สตรีองค์เดียวของอียิปต์

การทำมัมมี่

Mummification

ชมมัมมี่ของคนและสัตว์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ปริศนาคัมภีร์มรณะ

Book of the Death

พร้อมร่วมค้นหาคำตอบแห่งปริศนาคัมภีร์มรณะเปรียบเสมือนของกำนัลจากเทพแห่งความตาย

เกร็ดน่ารู้

Tips to know

อียิปต์โบราณ หรือไอยคุปต์

Ancient Egypt


เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์

ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศอียิปต์อารยธรรมอียิปต์โบราณสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์และเริ่มปรากฏชัดเมื่อประมาณ 3, 150 ปีก่อนคริตศักราช จากการรวมอำนาจทางการเมืองของอียิปต์ตอนเหนือและตอนใต้ ภายใต้ฟาโรห์นาร์เมอร์ ซึ่งเป็นฟาโรห์องค์แรกแห่งอียิปต์

ประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณจำแนกตามยุคอาณาจักรที่มั่นคงหรือที่รู้จักกันใน ยุคราชอาณาจักร (Kingdoms) โดยมักแบ่งตามราชวงศ์ที่ขึ้นมาปกครองและยุคที่ไม่มีความแน่นอนที่เรียกว่า ช่วงต่อ(Intermediate Periods) ยุคที่สำคัญๆ ได้แก่

ราชอาณาจักรเก่า (The Old Kingdom) ประมาณ 3, 200 - 2, 300 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงต้นยุคสัมฤทธิ์

ราชอาณาจักรกลาง (The Middle Kingdom) ประมาณ 2, 040-1, 782 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงกลางยุคสัมฤทธิ์

ราชอาณาจักรใหม่ (The New Kingdom) ประมาณ 1, 567-1, 085 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงปลายยุคสัมฤทธิ์ ซึ่งในยุคราชอาณาจักรใหม่นี่เองที่อารยธรรมอียิปต์โบราณถึงจุดสูงสุด โดยได้ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของนูเบียและส่วนหนึ่งของตะวันออกใกล้ ก่อนที่จะถดถอยไปอย่างช้า ๆ

ตลอดช่วงประวัติศาสตร์อียิปต์ถูกรุกรานหรือยึดครองโดยต่างชาติหลายต่อหลายครั้ง โดย ฮิกซอส ลิเบีย นูเบีย อัสซีเรีย อคีเมนียะห์เปอร์เซีย และมาเกโดเนีย


ภายใต้การยึดครองโดย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เมื่อ 332 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งทำให้ความเป็นอาณาจักรอียิปต์โบราณล่มสลายลงและจัดอียิปต์เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิมาเกโดเนีย


แม้กระนั้นเองความเป็นอารยธรรมอียิปต์โบราณก็ดำรงอยู่ต่อไปภายใต้ ราชวงศ์ทอเลมี เชื้อสายกรีกที่ตั้งขึ้นภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์และปกครองอียิปต์จนถึง 30 ปี ก่อนคริสตกาลภายใต้ พระนางคลีโอพัตรา

กระทั่งถูกจักรวรรดิโรมันเข้ายึดครองและกลายมาเป็นจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เกิดการผสมผสานเข้ากับอารยธรรมผู้ปกครองเรื่อยมาจนเลือนหายไปในที่สุด

อารยธรรมอียิปต์

Egyptian Civilization


Egyptian Civilization

พัฒนาการมาจากสภาพของลุ่มแม่น้ำไนล์ การควบคุมระบบชลประทาน การควบคุมการผลิตพืชผลทางการเกษตร พร้อมกับพัฒนาอารยธรรมทางสังคมและวัฒนธรรม พื้นที่ของอียิปต์นั้นล้อมรอบด้วยทะเลทรายเสมือนปราการป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก

นอกจากนี้ยังมีการทำเหมืองแร่และอียิปต์ยังเป็นชนชาติแรก ๆ ที่มีการพัฒนาการด้วยการเขียน ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้ การบริหารเน้นไปที่สิ่งปลูกสร้างและการเกษตรกรรม พร้อมกันนั้นก็มีการพัฒนาการทางทหารของอียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักร โดยประชาชนจะให้ความเคารพกษัตริย์หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า ฟาโรห์ทรงมีอำนาจเด็ดขาดทำให้การบริหารราชการบ้านเมืองและการควบคุมอำนาจนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้เป็นเพียงแต่เกษตรกรหรือช่างก่อสร้าง แต่ยังเป็นนักคิด นักปรัชญา ผู้ได้มาซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆ มากมาย ตลอดพัฒนาการของอารยธรรมกว่า 4, 000 ปี ทั้งคณิตศาสตร์ วิธีการสร้างพีระมิด วัด โอเบลิสก์ ตัวอักษรและเทคนิคโลยีด้านกระจก

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพทางด้านการแพทย์ ระบบชลประทานและการเกษตรกรรม สิ่งที่อียิปต์ทิ้งไว้เป็นมรดกแก่อนุชนรุ่นหลัง คือศิลปะและสถาปัตยกรรม

ซึ่งถูกคัดลอกนำไปใช้ทั่วโลกอนุสรณ์สถานที่ต่างๆ ในอียิปต์ต่างดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักประพันธ์ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันมีการค้นพบวัตถุใหม่ ๆ ในอียิปต์มากมายซึ่งกำลังตรวจสอบถึงประวัติความเป็นมา เพื่อเป็นหลักฐานแก่อารยธรรมอียิปต์และอารยธรรมของโลกต่อไป


การสนทนากับคนท้องถิ่นและการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในอียิปต์

Egyptian tips

โดยทั่วไปคนอียิปต์ที่มีการศึกษาดีสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้

ผู้เดินทางท่านใดพูดภาษาอาหรับ แม้เพียงไม่กี่คำก็เอาตัวรอดได้ เนื่องจากคนพื้นเมืองโดยทั่วไปมีประเพณีการต้อนรับแขกมาตั้งแต่โบราณแล้ว

Egyptian tips

คนอียิปต์เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี คุ้นเคยต่อนักท่องเที่ยว กระตือรือร้นที่จะทักทายกับชาวต่างชาติ

โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และมักจะยินดีที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอียิปต์ ในการสนทนา คนอียิปต์มักจะสบตาคู่สนทนาเพื่อเป็นการให้เกียรติและชอบใช้สัญลักษณ์ เช่น การใช้สัญญานมือประกอบการอธิบายต่างๆ ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้แตกต่างจากสากล จึงควรที่จะเรียนรู้จากคนท้องถิ่นไว้บ้าง

Egyptian tips

สุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสตัวโดยเฉพาะจากเพศตรงข้าม

การโอบกอดในที่สาธารณะ รวมทั้งแต่งกายให้สุภาพและรัดกุม ควรจะใช้ผ้าคลุมศีรษะเมื่อเข้าไปในมัสยิด หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตามสถานที่สาธารณะ

สิ่งที่พึงระวัง

Warning

เนื่องจากชาวอียิปต์ส่วนมากเป็นชาวมุสลิม จึงไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เสพยาเสพติดและไม่บริโภคหมู
สื่ออนาจารทุกชนิดเป็นสิ่งต้องห้าม อาทิเช่น นิตยสาร รูปภาพ เทป วีดีโอ ซีดี ดีวีดี เป็นต้น
การชักจูงให้ชาวอียิปต์เปลี่ยนศาสนาถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษและเชิญออกจากประเทศ
การพูดคุยระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงชาวอียิปต์ที่ไม่รู้จักกัน ถือเป็นเรื่องที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ
การให้ทิปแก่บุคคลที่อยู่ในระดับเดียวกับคุณ ถือเป็นเรื่องไม่ควรกระทำ เช่น นักธุรกิจ อาจารย์ เป็นต้น
ไม่ควรท่องเที่ยวตามลำพัง ในเขตทะเลทราย
สุเหร่าของชาวมุสลิม ถือเป็นสถานที่สงวน ไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว สุเหร่าที่อนุญาตสำหรับการท่องเที่ยวจะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
การเสพหรือเสนอให้เกิดการเสพยาเสพติดถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย